หลายๆ คนอาจเคยรู้สึกชาที่ปลายมือหรือปลายเท้า โดยมักคิดว่าอาการนี้ไม่เป็นปัญหาร้ายแรง แต่แท้จริงแล้วอาการชาอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษา อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือลีบได้ โดยเฉพาะหากรู้สึกชาเป็นประจำ นพ.สมชาย โตวณะบุตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ได้อธิบายในงาน “Care your love, care your Nerve” ว่าโรคปลายประสาทอักเสบพบได้ในกลุ่มคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน การทำงานหนัก ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน

ประสาทของเราแบ่งออกเป็นสองส่วน: ประสาทส่วนกลาง เช่น สมองและไขสันหลัง และประสาทส่วนปลาย คือ เส้นประสาทที่นำคำสั่งจากประสาทส่วนกลางไปยังกล้ามเนื้อ ระบบประสาทส่วนปลายมีเส้นประสาท 12 คู่ แต่ละคู่มีหน้าที่ต่างกัน หากเกิดการอักเสบในเส้นประสาท อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการบ้านหมุน หรือเห็นภาพซ้อน กลุ่มผู้เสี่ยงยังรวมถึงแม่บ้าน คนที่ใช้มือทำงานบ่อยๆ เช่น คนพิมพ์งาน หรือขี่มอเตอร์ไซค์ หากเส้นประสาทถูกกดทับ อาจรู้สึกชา ปวดแปล๊บๆ หรือรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อต

การป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบคือการรักษาพฤติกรรมสุขภาพ นั่งหรือทำงานในท่าทางที่ถูกต้อง พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ และตรวจสุขภาพเบื้องต้นจากสถานพยาบาล ถ้าเราให้ความสำคัญต่อสุขภาพและดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เริ่มต้น โอกาสที่จะป้องกันและรักษาก็จะสูงขึ้นมาก