อาการปวดส้นเท้าจากโรครองช้ำ อาจสร้างความทุกข์ยากได้ยิ่งกว่าที่คุณเคยคาดคิด

sanook

หลายคนอาจคิดว่าอาการปวดส้นเท้าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่มักเกิดขึ้นหลังจากใช้เวลาเดินหรือวิ่งนาน ๆ หรือเพราะน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน หรือแม้กระทั่งรองเท้าที่เลือกไม่ถูกประเภท แต่จริง ๆ แล้ว อาการปวดส้นเท้าอาจเป็นผลมาจากปัญหาที่เรียกว่า "โรครองช้ำ" ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้มากกว่าที่คาดคิด

โรครองช้ำนั้นคืออะไร?

โรครองช้ำ หรือที่เรียกว่าโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ เป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า และทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ส้นเท้า แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ได้ใช้งานเท้ามากเป็นพิเศษก็ตาม

อะไรคือสาเหตุต้นกำเนิดของโรครองช้ำ?

การยืนหรือเดินมากเป็นเวลานานอาจทำให้ส้นเท้ารับน้ำหนักมากเกินไป

น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ทำให้เกิดแรงกดบนเท้า

การใช้รองเท้าที่ไม่มีความพอดี ส่งผลให้การกระจายน้ำหนักของเท้าไม่สมดุล

การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เท้าอย่างกะทันหัน เช่น การเพิ่มระยะทางในการวิ่ง หรือเปลี่ยนพื้นผิวที่ใช้วิ่ง

เอ็นร้อยหวายที่ยึดแน่น ทำให้การเคลื่อนไหวของส้นเท้าลำบาก

โรคข้ออักเสบ เช่น โรครูมาตอยด์ ที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นและพัฒนาสู่พังผืดใต้ฝ่าเท้า

โครงสร้างเท้าที่ผิดปกติ เช่น เท้าแบนหรืออุ้งเท้าโก่ง

โรครองช้ำมีอาการแสดงออกอย่างไร?

ผู้ที่เกิดโรครองช้ำจะมีอาการเจ็บบริเวณส้นเท้า ซึ่งอาการอาจแพร่กระจายไปยังฝ่าเท้าหรืออุ้งเท้าได้ อาการส่วนใหญ่จะปวดจิ๊ดหรือปวดแสบ ซึ่งมักจะเริ่มจากการปวดเล็กน้อยและค่อยๆ รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสพื้นครั้งแรกในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือหลังจากที่นั่งพักเป็นเวลานานๆ และยังอาจปวดมากขณะแบกรับน้ำหนักระหว่างยืนหรือเดินนานๆ

การดูแลรักษาโรครองช้ำทำได้อย่างไร?

แพทย์อาจให้ยาต้านอักเสบ แนะนำอุปกรณ์เสริมรองเท้า เช่น เสริมอุ้งเท้า หรือรองรับส้นเท้า บางกรณีอาจแนะนำทำกายภาพบำบัด หากวิธีการนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ แพทย์อาจพิจารณาการฉีดสเตียรอยด์ แม้ว่าวิธีนี้จะใช้เวลานานกว่า 18 เดือนกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ และยังมีโอกาสเกิดอาการปวดซ้ำในอนาคต

หากคุณประสบอาการปวดส้นเท้าอย่างต่อเนื่องหรือปวดมากในช่วงเช้าหรือหลังนั่งพักยาว ควรพิจารณาพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แม้ว่าโรคนี้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็สามารถสร้างความไม่สะดวกในการดำเนินชีวิตได้มากทีเดียว

ขยายข้อความเต็ม