sanook
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีประโยชน์มากต่อร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนัก กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังเช่นเบาหวานหรือโรคหัวใจ แต่เมื่อเจ็บป่วย คนส่วนใหญ่มักสับสนว่าควรออกกำลังกายหรือไม่ และกังวลว่าการออกกำลังกายอาจทำให้อาการแย่ลง มาหาคำตอบกันดีกว่าว่า ควรออกกำลังกายตอนเจ็บป่วยหรือไม่
หนึ่งในประโยชน์ของการออกกำลังกายคือการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่หากคุณป่วยอยู่ การออกกำลังกายบางช่วงอาจไม่เป็นผลดีเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำใช้เกณฑ์ "คอ" เป็นตัวตัดสินว่าอาการป่วยแบบไหนควรหรือไม่ควรออกกำลังกาย หากอาการป่วยอยู่เหนือคอ เช่นหวัดเบาๆ คุณสามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ แต่หากอาการป่วยอยู่ต่ำกว่าคอ เช่น มีไข้ หรือปวดกล้ามเนื้อ ควรงดออกกำลังกายและพักผ่อนให้หายดีก่อน
อาการป่วยที่ยังสามารถออกกำลังกายได้:
เป็นไข้หวัดธรรมดา
ไอจามเบาๆ
คัดจมูก หรือน้ำมูกไหล
เจ็บคอ
ปวดหู
อาการป่วยที่ไม่ควรออกกำลังกาย:
เป็นไข้หวัดใหญ่
มีไข้
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ไอมีเสมหะ
ไอพร้อมเสียงฟืดฟาด
เจ็บแน่นหน้าอก
คลื่นไส้
อาเจียน
ท้องเสีย
หากป่วยแต่ยังอยากออกกำลังกาย ควรลดระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกาย เช่น เดินแทนการวิ่ง หรือเล่นโยคะแทนการยกน้ำหนัก เพื่อให้ร่างกายไม่ทำงานหนักเกินไป หากรู้สึกว่าอาการแย่ลง ควรพักทันทีและรอจนกว่าจะหายดี
เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่ฟิตเนสตอนป่วย:
หากป่วย เช่น เป็นหวัด ควรหลีกเลี่ยงการไปฟิตเนส เพราะมีโอกาสแพร่เชื้อ แต่ถ้าจำเป็น ต้องออกกำลังกาย ควรรักษาความสะอาด เช็ดอุปกรณ์ และล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
เมื่อไรถึงจะกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติ:
ผู้ใหญ่ที่เป็นหวัดทั่วไป หากไม่มีอาการแทรกซ้อน จะหายดีใน 7 วัน แต่หากเป็นไข้หวัดใหญ่ อาจต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์ หรือหากมีอาการแทรกซ้อน เช่น หลอดลมอักเสบ อาจใช้เวลานานขึ้น ดังนั้น ควรพักฟื้นตัวให้เต็มที่ก่อนกลับมาออกกำลังกายตามปกติ